คดีดังเกาหลี คิมซอนจอง StoryofSunnyKimฆ่าหนีสวมรอย
คดีดังเกาหลี มันเป็นเรื่องราวเป็นคดีที่เกิดขึ้นที่ ประเทศเกาหลีใต้ เป็นคดีที่น่าเศร้าน่าเสียใจแล้วก็สะเทือนใจแทนครอบครัวของผู้ตาย คิมซอนจอง เป็นที่สุด เรื่องราวนี้มันเกี่ยวข้องกับที่เธอที่ถูกพรากอนาคตชีวิตไป อาจสงสัยเธอไปจากน้ำมือของคนคนหนึ่ง ที่ทำลงไปด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ
คดีนี้มีสิ่งหนึ่งที่มันน่าสนใจมากในปีนี้ ในช่วงที่ผู้ตาย คิมซอนจอง ได้เสียชีวิตและหายตัวไปแล้ว แต่ปรากฏว่า account Social เหมือนกับว่าเธอนั้น ยังเป็นคนเล่นโซเชียลอยู่เลย นอกจากนั้นเธอก็ยังติดต่อกับครอบครัวอยู่ ดูก็ไม่มีอะไรสังเกตุได้เลยว่า นั่นคือเธอจริงๆหรือเปล่า
หรือมีใครบางคนกำลังสวมรอยเป็นเธออยู่ ดังนั้นเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วมันสนุกเกินแบบไหน เราจะทำกับคนร้ายได้หรือเปล่า สำหรับวันนี้ทางเว็บจะหาคำตอบอย่างนี้ไปพร้อมๆกัน StoryofSunnyKimฆ่าหนีสวมรอย
ข่าวการเสียชีวิตของคิม ถูกส่งไปถึงชาวนิวยอร์กจำนวนมากว่า บัณฑิตที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยอัลบานี ได้เสียชีวิตในเอเชีย Kim Sun-jung วัย 25 ปี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Sunny Kim เสียชีวิตเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ผู้สำเร็จการศึกษาจาก UAlbany ปี2011
เธอได้เรียนจบ วิชาเอกเศรษฐศาสตร์ และได้กลับไปทำงานอันทรงเกียรติ ในประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดของเธอ สื่อรายงานว่าแฟนหนุ่มวัย24ปีของเธอ ซึ่งระบุว่าชื่อ นายลี ได้เข้ามอบตัวในวันที่ 16 พฤษภาคม โดยบอกเจ้าหน้าที่ว่า เขาฆ่าคิมหลังจากที่เธอขอยุติความสัมพันธ์
นายลีได้ปลอมเป็นตัวตนของคิมมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยการสวมรอยบัญชีและอีเมลบนโซเชียลมีเดียของเธอ ครอบครัวของKim กล่าวว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเธอเสียชีวิตแล้วเพราะLee กำลังตอบกลับข้อความทางโทรศัพท์ของKim มาโดยตลอด และแล้วก็ได้ทราบว่า ร่างของเธอถูกพบอยู่ในกระเป๋าเดินทางฝังอยู่ในซีเมนต์บนภูเขาที่ห่างไกล
คิมติดต่อกับเพื่อนๆ ของเธอในสหรัฐอเมริกาเป็นประจำ เธอเป็นสมาชิกของชมรม Kappa Phi Lambda Upsilon ของ UAlbany บัญชี GoFundMe ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือ คดีดังเกาหลี พ่อแม่ของKim เพื่อเป็นค่าฝังศพ คดีครอบครัวwatts
คดีดังเกาหลี เริ่มต้นทำความรู้จัก คิมซอนจอง
StoryofSunnyKimฆ่าหนีสวมรอย เธอคนนี้มีชื่อว่า คิมซอนจอง หรือคนทั่วไปจะรู้จักเธอในชื่อคิม เธอเนี่ยคือหญิงสาวชาวเกาหลีใต้วัย 26 ปี ผู้มีอนาคตไกลและก็เป็นความหวังของครอบครัว เป็นลูกสาวคนโตครอบครัวและเป็นพี่สาวที่น่ารักของน้องเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เด็กจนโต คิมซอนจอง เป็นเด็กสาวที่มีผลการเรียนดีเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นเรียนมาเสมอ โดยเธอเป็นคนที่เรียนที่โรงเรียน Bad Cineplex ประเทศอเมริกา
Sunny Kim เป็นพี่สาวที่น่ารักของน้องเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เด็กจนโตป็นเด็กสาวที่มีผลการเรียนดีเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นเรียนมาเสมอ และหากเมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน เธอยังเป็นคนที่เรียนรู้เร็วและก็มีพรสวรรค์ทางด้านการเรียนมาก และตอนที่ซันนี่คิม อายุได้ประมาณ 14 ปี เธอได้ตัดสินใจอยากจะเดินตามความฝันของเธอ ความฝันก็คือการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศที่ ประเทศอเมริกา
คิมศึกษาต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 14 ปีในสหรัฐอเมริกา เธอเข้าเรียนที่ มังงะ Massanutten Military Academy ในเวอร์จิเนียและต่อมาที่ State University of New York, Albany ซึ่งเธอศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ คิมเป็นที่นิยมชื่นชอบและมีเพื่อนสนิทมากมายในสหรัฐอเมริกา
หลังจากเรียนจบ เธอย้ายกลับบ้านไปทำงานเป็นอาจารย์ที่ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อนชาวสหรัฐฯของเธอติดต่อกันหลายปีผ่าน Facebook และแอปรับส่งข้อความ KakaoTalk คิมยังโพสต์ภาพเพื่อนๆ งานฝีมือ อาหาร และลูกหมาของเธอลงเฟซบุ๊กเป็นประจำ เพื่อนคนหนึ่งบอกกับ BuzzFeed News ว่า ดูเหมือนเธอจะมีความสุข กินอาหารได้ และมีชีวิตที่ดี
ความสัมพันธ์ของ คิมซอนจอง และแฟนหนุ่ม
ในเกาหลีใต้เธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่จะเข้ามาเป็นแฟนของเธอ โดยเธอมักจะแชร์รูปถ่ายของพวกเขาด้วยกันบนFacebook เพื่อนกล่าวในภายหลัง ถึงแม้จะกลับมาอยู่ที่เกาหลี แต่เธอก็ยังคิดคอนแทคกับเพื่อนๆ ที่ประเทศอเมริกาเธอมักจะโพสต์รูปภาพของเธอ งานอดิเรกตอนเธอไปทำกิจกรรมอะไรต่างๆ ลงโซเชียลมีเดีย เธอมักจะโพสต์รูปคู่ลงอัปเดทเรื่องราวโดยตลอด
หลังจากย้ายกลับมาที่เกาหลีใต้ คิมทำงานเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในเมืองปูซาน เมื่อเธอได้พบกับลี ซึ่งขณะนั้นเป็นนักเรียนคนหนึ่งของเธอ ตามรายงานของซีรีส์โทรทัศน์อาชญากรรมและการสืบสวนของเกาหลีใต้เรื่อง Real Story Eye ในที่สุดทั้งสองก็เริ่มออกเดทกัน
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของคิมกับลีเริ่มแย่ลง คิมเริ่มเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเกี่ยวกับความยากลำบากที่เธอเผชิญในความสัมพันธ์ รวมถึงการถูกล่วงละเมิดหลายครั้ง ภายหลังเพื่อนของคิมบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า เธอได้แบ่งปันภาพถ่ายส่วนตัวของสิ่งที่ดูเหมือนจะมีรอยฟกช้ำหลายจุดบนใบหน้าของเธอ รวมถึงนิ้วที่หัก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกิดจาก คดีดังเกาหลี การทำร้ายร่างกายของนายลี
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เมื่อคิมกลับมาที่โซล เธอส่งข้อความถึงครอบครัวของเธอ ซึ่งมีข้อความว่า ฉันได้งานแล้วเรามาอยู่ด้วยกันเร็วๆนี้ น่าเศร้าที่Kim ไม่สามารถฉลองกับครอบครัวของเธอได้ เนื่องจากLee เดินตามเธอกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ในเย็นวันนั้น และบีบคอเธอในขณะหลับ โดยที่เธอเพิ่งเลิกกับเขา
วันรุ่งขึ้นLee เก็บร่างของKim ไว้ในกระเป๋าล้อลากใบใหญ่ เขาเช่ารถและขับไปทางใต้สู่ภูเขาใกล้กับ ทะเลสาบCheongpung ในชุงชอง ตำรวจระบุว่า เขาฝังศพของคิมซึ่งยังอยู่ในถุงและหุ้มด้วยชั้นซีเมนต์และแนปทาลีนเพื่อปกปิดกลิ่นต่างๆ
คดีดังเกาหลี การเสียชีวิตของ KimSonJung ถูกเปิดเผยได้อย่างไร
StoryofSunnyKimฆ่าหนีสวมรอย วันหนึ่งเธอขาดงานไปหลายวัน บริษัทก็ตกใจเพราะว่าซันนี่ปกติคนที่มีความรับผิดชอบมากๆ หากเธออยากจะลางาน เธอก็ต้องส่งใบลาหรือว่าอีเมลมาก่อน แต่นี่เหมือนเธอเนี่ยขาดการติดต่อไปเลย ทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะพยายามจะติดต่อกับซันนี่ โดยอีเมลไปถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง แต่สุดท้ายอีเมลเหล่านั้นเนี่ยก็ไม่ได้รับการตอบกลับเลย ทางบริษัทเลยได้โทรไป แต่ปรากฏว่าเธอเนี่ยก็ไม่ได้รับสายเช่นเดียวกัน
แต่ในช่วงที่เธอไม่ได้รับการติดต่อผ่านจากทางบริษัท แต่เธอกลับติดต่อกับทางครอบครัวได้ปกติ ยังคงข้อความหากันได้ปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่ทั้งครอบครัวไม่รู้เลยว่าเธอขาดงานไปแล้วหลายวัน
แต่แล้วได้มีอีกหนึ่งบริษัทที่คิมเคยได้ไปสมัครงานไว้อยู่ เป็นบริษัทที่ซันนี่นั้นอยากจะทำงานกับบริษัทนี้อย่างมาก แล้วมันกำลังอยู่ในช่วงเจรจาต่อรอง โดยบริษัทใหม่นี้ในช่วงนั้นก็ได้พยายามติดต่อไปยังเธอ เพราะว่าทางบริษัทอยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่บริษัทใหม่ก็ไม่สามารถจะติดต่อกันได้ แต่จู่ๆปรากฏว่า มีอีเมลตอบกลับไปยังบริษัทใหม่นี้ว่า เธอไม่สนใจตำแหน่งในบริษัทใหม่แล้วล่ะ เพราะเธอกำลังจะย้ายที่อยู่ แล้วก็ย้ายที่ทำงานไปที่ประเทศอเมริกา
เมื่อทางบริษัทใหม่ได้รับการปฏิเสธมาแบบนี้ บริษัทก็รู้สึกเสียดายยิ่งทำให้อยากจะได้ตัวเธอเข้ามาทำงาน เพราะเธอต้องเป็นคนที่มีศักยภาพมากๆ หลังจากที่เธอตอบกลับแบบไร้เยื่อใย เธอก็ไม่ตอบกลับอะไรอีกเลย ในช่วงนั้นซันนี่ก็ยังคงติดต่อกับครอบครัวตามปกติอยู่ แต่ทางบริษัทใหม่ยังคงค้าง กระบวนการการเซ็นสัญญา ไว้อยู่ทำให้บริษัทใหม่เลยติดต่อครอบครัวของซันนี่ ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนอยากจะให้มาเซ็นสัญญาหรือว่าปฏิเสธสัญญา เพื่อให้เรื่องมันจบกันไป
แต่พอบริษัทได้ไปติดต่อไปยังครอบครัวของเธอ ทางบริษัทใหม่บอกไปยังครอบครัวของเธอว่า ไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย ทำให้ครอบครัวต้องแปลกใจ เพราะบริษัทแห่งใหม่นี้ เป็นบริษัทที่ซันนี่ต้องการเข้าทำงานอย่างมาก เพราะบริษัทนี้ตั้งอยู่ในเมืองเดียวกันกับครอบครัวเธอ เธอเองยังได้บอกกับครอบครัวว่า ถ้าเธอได้เข้าทำงานที่บริษัทนี้ เธอจะได้ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัว ได้อยู่ใกล้เคียงกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็น้อง
ดังนั้น การที่ซันนี่คิมจะย้ายไปทำงานที่ประเทศอเมริกา ทางครอบครัวไม่ทราบเรื่องนี้เลย ทำให้ครอบครัวเริ่มกังวลว่า อาจจะมีอะไรที่ไม่ปรกติเกิดขึ้นแล้ว แล้วก็เริ่มจะสงสัยแล้วว่า ตอนนี้ซันนี่คิมกำลังเจอเรื่องที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ ทำให้ครอบครัวเกิดความเป็นห่วงมากๆ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความน่าสงสัยก็ถูกคลี่คลายลง โดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัวและไม่คิดว่าเหตุการณ์ต่างๆ มันจะออกมาในรูปแบบนี้ เมื่อวันที่เรียกวันที่ 18 พฤษภาคมปี 2015 แฟนหนุ่มของคิม ได้เดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และสารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่าเธอ
StoryofSunnyKimฆ่าหนีสวมรอย แรงจูงใจที่แฟนหนุ่มฆ่าคิมซอนจอง
แฟนหนุ่มวัย24ปี ซึ่งตามกฎหมายของเกาหลี สามารถเรียกนายลีในสื่อเกาหลีได้เท่านั้น ได้แจ้งตำรวจเป็นครั้งแรกโดยบอกว่า ฉันฆ่าแฟนสาวของฉันและฝังศพ และฉันก็พยายามจะฆ่าตัวตายด้วย มิสเตอร์ลีอายุ 24ปี เขาได้ติดต่อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเหตุร้ายบางอย่าง โดยมิสเตอร์ลีนได้ลงมือฆ่าแฟนสาวของตัวเองและได้ทำการฝังศพเธอไว้ จากนั้นเขาก็ได้พยายามฆ่าตัวตายเพื่อจะตายตามเธอไป
ตำรวจว่าเขาได้ลงมือฆ่าแฟนสาวของตัวเองและได้ทำการฝังศพเธอไว้ จากนั้นเขาก็ได้พยายามฆ่าตัวตายเพื่อจะตายตามเธอไป แต่ก็ทำไม่สำเร็จและเมื่อตำรวจได้รับฟังเหตุการณ์ที่มิสเตอร์ลีโทรมา แต่ตอนนี้ทางตำรวจไม่เชื่อได้ว่า คิมได้เสียชีวิตไปจริงหรือเปล่า เพราะยังอยู่ในสถานการทำงานแถมยังสามารถข้อความคุยกับครอบครัวได้
ลีเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจที่สถานีตำรวจ ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะลงมือฆ่าเธอ แต่เขาทำเพียงเพราะว่าตอนนั้นซันนี่คิม พยายามบอกเลิกกับเขา เพราะฉะนั้นการที่เธอได้งานบริษัทใหม่และจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัว ซึ่งมันอยู่กันคนละเมืองอะไรกับลี จึงส่งผลทำให้ทั้งสองคนมีปากเสียงทะเลาะกัน
จนสุดท้ายทางลีได้ทำการบีบคอเธอ หลังจากเธอเสียชีวิตไปแล้วมิสเตอร์ดี ก็ได้นำร่างไร้วิญญาณของเธอใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทาง และก็ได้ขับรถไปเพื่อฝังร่างของเธอพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง แถมอำพรางศพด้วยการผสมปูน เทคอนกรีตซีเมนต์ และแนปทาลีนเพื่อไม่ให้กลิ่นศพลอยออกมา
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยLee ในการหายไปของคิม ลีได้ใช้สมาร์ทโฟนของKim เพื่อปลอมตัวเป็นเธอและโพสต์บนโซเชียลมีเดีย แม้แต่การติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนๆของเธอ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ อีกทั้งเขายังส่งข้อความถึงบริษัทที่เพิ่งว่าจ้างคิม ว่าเธอกำลังจะกลับไปอเมริกาเพื่อศึกษาต่อ
ไม่นานพ่อแม่ของคิมก็ได้รับแจ้ง เรื่องการผิดสัญญาจากบริษัทใหม่ที่กล่าวไปในข้างต้น ซึ่งบริษัทมีแต่จะเพิ่มความพยายามในการติดต่อกับลูกสาว และค้นหาว่าเธออยู่ที่ไหน หลังจนมุมในที่สุดมิสเตอร์ลีก็โทรหาตำรวจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม โดยลีสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเธอและฝังร่างของเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามฆ่าตัวตายและเสียเลือดมากเมื่อตำรวจไปถึงตัวเขา
แต่ครอบครัวของคิมไม่ได้เห็นด้วยกับ คดีดังเกาหลี การพยายามฆ่าตัวตายของนายลี โดยครอบครัวของคิม คิดว่าลีกำลังพยายามขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีการลงโทษที่เบาลง โดยทางครอบครัวของ ซันนี่คิม ขอให้ลีถูกตั้งข้อหา ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน