The Koh-i-Noor เพชรขนาด 105.6 กะรัต มีน้ำหนัก 21.6 กรัม
The Koh-i-Noor พร้อมกับเพชรคู่แฝดที่มีชื่อว่า ดารยา-เย-นัวร์
The Koh-i-Noor โดยโคห์อินัวร์นั้นมีประวัติอันยาวนานกว่า 5,000 ปี โดยตกเป็นเพชรของหลายราชวงศ์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ราชปุตแห่งอินเดีย, ราชวงศ์โมกุล, ราชวงศ์อัฟชาริด, ราชวงศ์ดูร์รานี, ราชวงศ์ซิกข์
ก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือของจักรวรรดิอังกฤษ (โดยมีเรื่องเล่าว่าทหารจากอังกฤษได้ไปขโมยมา) ซึ่งในปัจจุบันยังเกิดเป็นข้อพิพาทที่ถกเถียงกันถึงต้นกำเนิด ที่มา และเจ้าของที่แท้จริงอยู่
โคห์อินัวร์ได้รับการนำขึ้นถวายสมเด็จพระราชินีนาถ วิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1850 และทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ทำการตัด และเจียระไนใหม่ ในปี ค.ศ. 1862 เพื่อให้มีการกระจายแสงที่ดีขึ้น ทำให้มีน้ำหนักลดลงจาก 186 กะรัต เหลือ 105.6 กะรัต และถูกใช้ประดับเป็นเพชรเม็ดกลางของพระมหามงกุฎ
ที่ปัจจุบันยังได้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หอคอยแห่งลอนดอน ซึ่งตามตำนานฮินดูโบราณได้กล่าวไว้ว่า พระกฤษณะ คือผู้ที่สวมใส่เพชรเม็ดนี้ และว่ากันว่า “ผู้ใดได้ครอบครองเพชรเม็ดนี้ จักได้ครองโลก หากแต่จักพบพานความโชคร้ายต่าง ๆ
ของมันด้วย” และโดยตำนานแล้ว ผู้ที่จะสามารถสวมใส่เพชรโคห์อินัวร์ได้ จะต้องเป็นสุภาพสตรี หรือพระเจ้าเท่านั้น เพราะหากสุภาพบุรุษคนใดสวมใส่ เขาคนนั้นก็จะพบแต่ความโชคร้าย ซึ่งเป็นผลมาจากคำสาปของเจ้าของเพชรตามคำร่ำลือ