สงครามเย็น กับการสรุปภาพโดยรวมที่มาที่ไปของการเกิด Cold War
สงครามเย็น ถ้าจะให้เล่ารายละเอียด ของสงครามครั้งนี้ ถือได้ว่าค่อนข้างละเอียดมาก เราขอสรุปมาพอคร่าวๆ ดังนี้ สงครามเย็นนั้น เป็นสงครามที่ใช้เวลา ในการต้อสู้กันยาวนานถึง 50 ปี เพราะมันไม่เกิดเหตุการณ์ ที่มีคนรุกขึ้นมา ประกาศการทำสงคราม เหมือนกับสงครามที่ผ่านๆ มานั่นเอง
แต่สงครามนี้ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาจากปํญหาต่างๆ นานา ได้แก่ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านสังคม ปัญหาทางด้านการทหาร ปัญหาทางด้านตัวแทน แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความแตกต่างของสงครามนี้ นั่นก็คือ การไม่ได้อาวุธ มาสร้างสงคราม ต่อสู้กัน ปะทะกันตรงๆ
จึงได้กลายเป็นที่มาของ คำว่า สงครามเย็นนั่นเอง สงครามนี้เกิดจากระหว่าง โลกเสรีนิยม โดยมีแกนนำจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ โลกสังคมนิยม หรือ คอมมิวนิสต์ โดยแกนนำคือ สหภาพโซเวียต
เริ่มต้น ก่อนที่จะจบ สงครามโลกครั้งที่ 2 จะจบลง นิดเดียวเอง ช่วง 1945 เป็นช่วงที่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และ สหภาพโซเวียต จับมือกันรุม เยอรมันและญี่ปุ่น
ขณะที่ เยอรมันกำลังจะแพ้ ฝั่งที่กำลังจะชนะ ก็ได้เริ่มแบ่งสรรปันส่วน ผลประโยชน๋ต่างๆ กัน โดยการ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และ สหภาพโซเวียต ทำการประชุมที่เรียกว่า Yalta Conference
ฝั่งที่ชนะสงคราม จะทำการประชุม Yalta Conference
ผลของการประชุม ได้ความว่า ดังนี้
1.แบ่งเยอรมันออกเป็น 4 ส่วน แต่ปัญหาคือ เมืองหลวงของเยอรมันนั่นคือ เบอร์ลิน ซึ่งถ้าต้องกลายไปอยู่ในส่วนของ สหภาพโซเวียต มันก็จะทำให้ดูไม่ยุติธรรมต่อ ประเทศอื่นๆ
ในส่วนของตัวเมืองหลวงด้านใน ก็ต้องโดนแบ่ง เป็น 4 ส่วนเช่นเดียวกัน และเหตุผลนี้เองทำให้ กลายเป็นที่มาอย่างมากกับ การเกิดสงครามในอนาคต
2.ทุกประเทศที่ นาซี ควบคุมอยู่ จะต้องถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และมีการเลือกตั้งผู้นำของตนเอง และทุกประเทศต้อง ปกครองระบอบประชาธิปไตย
Joseph Stalin ผู้นำสหภาพโซเวียต ในขณะนั้น สัญญากับทุกคนว่า จะช่วยสหรัฐอเมริกา ในการเข้าถล่มประเทศญี่ปุ่นเอง
ทุกประเทศจะช่วยกัน ประนามนาซีเยอรมัน ที่ทำให้เกิดสงคราม และจะต้องมี UN เพื่อดูแลสันติสุขกัน ในโลกนี้ หลังจากนั้น ก็สามารถช่วยกันจนบรรลุผลสำเร็จ
เดือน กรกฎาคม 1945 ได้เกิดการประชุม เพื่อเตือนความจำถึงสัญญา ที่เคยตกลงกันเอาไว้ ปรากฎว่า ผู้นำสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น คือ Franklin D. Roosevelt ได้เสียชีวิต
ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Truman ซึ่งเขานั้น ไม่นิยมสหภาพโซเวียต และช่วงนั้นสหรัฐ ก็ได้พัฒนา ปรมาณู ขึ้นมาสำเร็จ เขาจึงไม่จำเป็นต้องง้อสหภาพโซเวียตแล้ว และก็จากที่เขาไม่ชอบเป็นเดิมทุน อยู่แล้วด้วย
จึงส่งผลให้ เกิดการระหองระแหง จากเขานั่นเอง โดยการชู เรื่องอาวุธทีประเทศเขา ได้พัฒนามาใหม่ขึ้นมาได้ แต่เขาไม่ได้บอกว่าเป็นอาวุธอะไร ทำให้กลายเป็นความไม่ไว้วางใจกัน
เพราะทาง สหภาพโซเวียต ได้ทำการส่งสายลับ ไปสืบมาและได้ทราบเรื่องนี้มานานแล้ว ทำให้สหภาพโซเวียตเกิดความไม่พอใจ ทางสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่พอใจ ในเรื่องของสัญญาก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกัน ในส่วนของการแบ่งประเทศ
ผลจากการแบ่งประเทศ ทำให้ประชาชนส่วนมาก เริ่มเอนเอียงไปฝั่งของโซเวียต คือ การยอมรับการปกครองแบบ ลัทธิคอมมิวนิสต์ จากที่เคยตกลงกันว่า จะปกครองกันในระบอบประชาธิปไตย
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่กี่วัน ในเดือน สิงหาคม 1945 จึงได้เกิดการ ทิ้งระเบิดปรมาณู ลงยังเกาะ Hiroshima และ Nagasaki
กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ สหภาพโซเวียต เกิดความรู้สึกถูกคุมคามอย่างมาก แต่มันก็ทำให้เกิดทฤษฏีนึงว่า อาจเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ ให้สหภาพโซเวียตได้เห็น ว่าพวกเขามี แสนยานุภาพที่มากพอ นั่นเอง
สหภาพโซเวียต จึงได้ทำการเร่งการเผยแพร่ ลัทธิคอมมิวนิสต์ กระจายอย่างกว้างขวาง ไปถึง ยุโรปตะวันตก มากขึ้นๆ เพื่อปกป้องประเทศของตัวเอง
Long Telegrams เป็นสาเหตุของการเกิด สงครามเย็น อย่างไร
เป็นการส่งสารความลับบอก จากสถานฑูตอเมริกาในโซเวียตไปยังอเมริกา และจากสถานฑูตโซเวียตในอเมริกากลับไปประเทศของตนเอง ส่งกันไปมา จึงทำให้เกิด การปะทุของสงคราม
Winston Churchill ผู้นำอังกฤษที่เพิ่งลงจากตำแหน่ง ในขณะนั้น ได้ลุกขึ้นกล่าวคำ สุนทรพจน์ ขึ้นมาว่า Iron Curtain Speech คือ ตอนนี้ ในยุโรปเริ่มแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ระหว่าง ฝั่งที่เชื่อใน คอมมิวนิสต์ และ ฝั่งที่เชื่อใน เสรีนิยม
ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ยังเหนียวแน่นในเรื่องของฐานการเงิน จึงได้เสนอไปยังประเทศ ที่ต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้วยการส่งเงินไปช่วยเหลือ
และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึง ระบบทุนนิยม ว่ามันมีดีแค่ไหน แม้แต่การส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือป้องกันประเทศนั้น ซึ่งการช่วยเหลือแบบนี้ เรียกว่า Marshall Plan
แน่นอน การทำแบบนี้ ทำให้สหภาพโซเวียตไม่พอใจ จึงทำการตอบโต้ โดยการปล่อยข่าวว่า อเมริกาต้องการที่จะครอบงำยุโรปแล้ว ทุกคนจะต้องระวังตัวไว้ให้ดี และทำการห้ามประเทศ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของตน อย่าได้หลงเชื่ออเมริกา
ดังนั้น ทางด้านของสหภาพโซเวียต จึงได้พัฒนาฐานเศรษฐกิจ แทงบอลโลก ของฝั่งตนขึ้นมาเอง โดยการจะเข้าไปช่วยเหลือเอง ถึงแม้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็สามารถทำให้ สหภาพโซเวียตได้เข้าไปคุมเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ
ทีนี้ ถามว่าจากเหตุการณ์ 2 ฝั่งนี้ปะทะกัน ใครที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นั่นก็คือ เบอร์ลิน นั่นเอง เพราะเกิดจากการทะเลาะกัน จากฝั่งที่ดูแลเมืองของตนอยู่ กลายเป็น 3 หัวทะเลาะกัน
จากนั้นไม่นานสหภาพโซเวียต ได้ปิดล้อมเบอร์ลิน เพราะกลุ่มตะวันตกอยู่ฝ่ายอเมริกา ทำให้มี กำแพงเบอร์ลิน เพื่อกั้นไม่ให้กลุ่มเบอร์ลินตะวันออก เข้าช่วยเหลือ ชาวเบอร์ลินตะวันตก
เพื่อที่จะให้ชาวเบอร์ลินตะวันตก เข้าร่วมกับเบอร์ลินตะวันออก ทางอเมริกาก็ได้ส่งอาหาร และสิ่งของต่างๆ ทางอากาศเพื่อช่วยเหลือชาวเบอร์ลินตะวันตก โซเวียตเห็นว่าไม่ได้ผล จึงยกเลิกการปิดกั้นให้กลุ่มตะวันตกเข้ามา
สุดท้ายแล้ว สงครามเย็นได้ยุติลงอย่างไร
ในปี ค.ศ.1985 เป็นการสิ้นสุดของสงครามเย็น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ดูซีรี่ย์ อย่างมากในสหภาพโซเวียต เมื่อคนทั่วไป เริ่มตระหนักถึงการมีเสรีภาพ อิสระภาพในชีวิต ซึ่งนำไปสู่การ ล่มสลายของสหภาพโซเวียต ในปี 1991
และนับเป็นการสิ้นสุดของ ยุคสงครามเย็น จากนั้น สหภาพโซเวียตก็ได้เปลี่ยนตัวเองเป็น ประเทศรัสเซีย นอกจากนี้กำแพงเบอร์ลิน ยังถูกทำลายลงด้วย ในวันที่ 9 พฤศจิกายน คศ. 1989 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ สันติภาพ หลังยุคสงครามเย็นอย่างแท้จริง
สรุปเหตุของสงครามเย็น ก็คือ เหตุการณ์ทางการเมือง ที่เกิดขึ้นหลังจากจบ สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยต่างแย่งชิงกันเพื่อเป็น อภิมหาอำนาจ และสู้รบกันโดยปราศจากการการปะทะด้วยอาวุธ
ซึ่งเกิดขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1947–1991 แต่ข้อเสียของสงครามครั้งนี้เลย ก็คือ ทำให้เกิด สงครามตัวแทน การทำลายคนชาติเดียวกัน และก่อให้เกิดการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
ขึ้นชื่อว่าสงคราม สงครามเกาหลี เป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว เพราะไม่ว่ายังไง ก็ต้องเกิดการสูญเสียขึ้นไม่มากก็น้อย
