ความลับแห่งดวงจันทร์ ปริศนาความลับที่หลายคนไม่รู้
ความลับแห่งดวงจันทร์ นักบินอวกาศที่เดินทางไปยังดวงจันทร์กับยานอะพอลโล 11
ความลับแห่งดวงจันทร์ อาร์มสตรองคงจะไม่รู้เลยว่าอันที่จริงแล้วดวงจันทร์เคยมีน้ำอยู่บนนั้นมากกว่าที่มนุษย์เคยตรวจพบได้มาก่อนถึง 100 เท่า ซึ่งถูกซ่อนเร้นลึกลับเสียจนนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีก 40 ปี ทำการศึกษาอย่างถี่ถ้วนจึงล่วงรู้ความลับดังกล่าว
นายแฮริสัน ฮาเกน ชมิทท์ นักธรณีวิทยาชาวอเมริกัน ได้ศึกษาหินดวงจันทร์ที่นักบินอวกาศของยานอะพอลโล 17 นำกลับมาตั้งแต่ปี 2515 ให้ความเห็นว่า ดวงจันทร์อาจซ่อนน้ำปริมาณมหาศาลอยู่ภายใต้พื้นผิวที่เต็มไปด้วยฝุ่น หิน และหลุมที่เกิดจากอุกกาบาตพุ่งชน
ขณะที่นายฟรานซิส แมคคับบิน หัวหน้าคณะวิจัยดวงจันทร์ สถาบันคาร์เนกีแห่งวอชิงตัน กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อมาโดยตลอด 40 ปี ว่าดวงจันทร์มีแต่ความแห้งแล้ง แต่เมื่อไม่นานมานี้ตรวจพบน้ำปริมาณ 64 ส่วนในพันล้านส่วนถึง 5 ส่วนในล้านส่วน บนดวงจันทร์
ซึ่งสูงกว่าที่เคยตรวจพบในการศึกษาก้อนหินคริสตัลจากภูเขาไฟบนดวงจันทร์ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “ครีป” (KREEP) ครั้งก่อนๆ ทั้งนี้ครีปเป็นคำย่อที่มาจากตัวอักษร K (ชื่อทางเคมีของโพแทสเซียม) REE (มวลสารจากโลก) และ P (ชื่อทางเคมีของฟอสฟอรัส)
การพบน้ำยิ่งทำให้ทฤษฎีที่ว่าดวงจันทร์นั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกยิ่งชัดเจนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนเกิดอุกกาบาตขนาดเท่าดาวอังคารพุ่งชนโลกทำให้มวลวัตถุที่อยู่บนโลกกระจายออกไปนอกชั้นบรรยากาศก่อนที่จะรวมตัวกันเป็นดาวบริวารของโลก
แต่ในขั้นตอนของการกำเนิดดวงดาวมีภูเขาไฟปะทุบนพื้นผิวจำนวนมาก ส่งลาวาร้อนออกมาจากแกนดวงดาวที่ร้อนระอุด้วยหินเดือดสู่พื้นผิวทำให้ลาวาส่วนหนึ่งสามารถเก็บกักน้ำไว้เมื่อเย็นตัวลง ขณะที่น้ำส่วนใหญ่ถูกความร้อนแผดเผาจนระเหยกลายเป็นไอกระจายตัวอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์นั่นเอง