เปรี้ยวหั่นแอ๋ม คดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นช่วงกลางปี 2560

เปรี้ยวหั่นแอ๋ม

เปรี้ยวหั่นแอ๋ม ปมแค้นอะไรที่ทำให้ แอ๋ม ถูกฆาตกรรม อย่างสะเทือนขวัญ

เปรี้ยวหั่นแอ๋ม ช่วงกลางปี 2560 มีผู้พบชิ้นส่วนศพถูกฆ่าหั่นแล้วทิ้งอำพราง ในป่าอำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น คดีนี้ทีมสืบสวนเร่งแกะรอย จนสืบรู้ได้ว่า เจ้าของร่างไร้วิญญาณ ที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม นั่นก็คือ นางสาว วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี

แรกเริ่มเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าที่ ประเด็นชู้สาว แต่สุดท้ายคดีกลับพลิก กลายมาเป็นอีกเรื่อง เมื่อพบหลักฐานเป็น กล้องวงจรปิด จับภาพนาทีที่เหยื่อสาวขึ้นรถ CRV จากไปเป็นภาพสุดท้าย

เจ้าหน้าที่สืบขยายผล จนสามารถจับกุม นายวศิน หรือนิว นามพรหม อายุ 22 ปี น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี

ยังมีอีก 3 สาวที่เหลือ ที่หลบหนีไปยังฝั่งพม่า ผ่านแดนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก็คือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี และ น.ส.กวินตา หรือ เอิร์น ราชสุดา อายุ 22 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี

เปรี้ยวหั่นแอ๋ม ในที่สุด เปรี้ยวได้ยอมรับสารภาพถึงเหตุที่ทำไป

เช้าวันที่ 4 มิ.ย. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร บินไปรับตัวทั้ง 3 สาว เพื่อนำตัวมาให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มาสอบสวนด้วยตัวเอง

โดยเปรี้ยวให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือฆ่าแอ๋ม แต่ในการหั่นศพนั้น นายวศินเป็นคนลงมือหั่น โดยใช้เลื่อยที่ซื้อมา หั่นศพช่วงกลางลำตัว พอถึงช่วงกระดูกสันหลัง ก็ใช้ปังตอสับจนขาด

ขณะที่เอิร์นและแจ้ ช่วยกันทำความสะอาด และยกชิ้นส่วนศพขึ้นรถไปเอาไปฝังอำพราง ทั้งหมดที่ทำไปนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติดข้ามชาติ แต่อย่างใด

หลังก่อเหตุแล้ว ทั้งหมดเดินทางออกจาก อ.แม่สาย ข้ามไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าเพื่อนบ้าน หวังจะไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะฝั่งนั้น แล้วเช่าห้องพักอยู่ข้างร้าน

แต่เมื่อมีการติดตามจับกุมตัว แทงบอลโลก2022 จากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่ง ก็เลยพากันหลบหนีไปอีกหลายจุด โดยทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดไว้ที่หอพัก ก่อนจะไปพักค้างที่บ้านร้างหลังหนึ่ง ที่หมู่บ้านแม่ขาว จ.ท่าเหล็ก ใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตรงข้ามบ้านสันผักฮี้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย

พร้อมระบุอีกว่า ตอนที่ข้ามฝั่งไปมีเงินติดตัวประมาณ 1 แสนบาท จึงตัดสินใจจะใช้เงินหมดแล้วเข้ามอบตัว ตอนเย็นวันที่ 3 มิ.ย. เลยไปซื้อเสื้อผ้าและกระเป๋าที่ตลาดท่าขี้เหล็ก แล้วนั่งรถสองแถวไปหาตำรวจที่สถานี เพื่อขอมอบตัว

เมื่อกลับมาจากทำงานต่างประเทศ แล้วมาพบแอ๋ม ก็วางแผนจะอุ้มไปสั่งสอน แต่พลั้งมือจนเกิดเสียชีวิต จากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก ขับรถวนอยู่กับเพื่อนจนศพเริ่มแข็ง จึงมีความคิด 2 อย่าง คือ ถ่วงน้ำ กับ หั่นศพ แต่จะถ่วงน้ำก็กลัวศพโผล่ขึ้นมา จึงตัดสินใจหั่นศพ แล้วเอาไปฝังโดยเอาวิธีจากที่เคยดูภาพยนตร์ต่างประเทศ

6 ขั้นตอนวางแผนฆ่า แผนประกอบคำรับสารภาพ

เจ้าหน้าที่ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด ไปชี้ 7 จุด ประกอบด้วย 1.รีสอร์ต ที่บ้านหัวถนน ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมด ร่วมกัน ชำแหละศพ น้องแอ๋ม ตั้งแต่ช่วงขับรถซีอาร์วี มาจอดภายในลานจอดรถของห้องพักเอ

1 แล้วอุ้มศพน้องแอ๋มเข้าไปภายในห้องพัก เพื่อเลื่อยหั่นศพออกเป็น 2 ท่อน และตัดแขนซ้าย นำศพใส่ไว้ในถุงพลาสติกดำและยัดใส่ถังอีกชั้น จากนั้นนำศพมาใส่ท้ายรถซีอาร์วี

2.ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง บริเวณสี่แยกตลาดโนนทัน ติดกับโรงเรียนเทศบาล ดูบอล บ้านโนนทัน จุดที่ น.ส.เปรี้ยวลงไปซื้อถุงพลาสติกสีดำเพียงคนเดียว 3.ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งห่างจากร้านสะดวกซื้อประมาณ 500 เมตร จุดที่ นายวศิน นามพรหม บอกว่าไปซื้อเลื่อย แต่น.ส.เปรี้ยวระบุว่า ซื้อแค่ปูนซีเมนต์

4.ร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ตรงข้าม ร.ร.เทศบาลบ้านโนนทัน ห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 800 เมตร จุดนี้ทั้ง 3 ลงมาเลือกซื้อเลื่อยและอุปกรณ์ต่างๆ 5.ริมถนนเหล่านาดีตัดกับถนนหน้าเมือง บริเวณปากทาง ซ.หน้าเมือง 3/1 จุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมารับ น.ส.แอ๋ม

6.เส้นทางจาก อ.เมือง ไป อ.เขาสวนกวาง อยู่ในพื้นที่อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ที่เอาเลื่อยหั่นศพไปทิ้ง ซึ่งจากการค้นหาก็พบเลื่อยและมีด และ 7.ภายในป่าสาธารณะข้างทาง บ.โนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันขุดหลุม และนำศพของ น้องแอ๋มที่ถูกชำแหละใส่ถังไว้แล้วนำไปฝังดินทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำทั้ง 3 มาขอขมานางสำราญ เพลียแก่น ยายของน้องแอ๋ม และ น.ส.สกุณตรา เพลียแก่น น้าสาว โดยเปรี้ยวก้มกราบ ระบุว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า ที่ผ่านมาสำนึกผิดแล้วจึงเข้ามามอบตัว

โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้ถูกแจ้งข้อหา ตระเตรียมการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในความผิดมาตรา 289 เพิ่มเติมจาก ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ลอบฝังซ่อนเร้น หรือ ทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร

เปรี้ยวมือหั่นศพบ่น เบื่อกินข้าวแดง และคิดถึงแฟน

พี่สาวของเปรี้ยว ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ได้เข้าไปเยี่ยมเปรี้ยวที่เรือนจำ โดยเปรี้ยวบอกกับตนเองว่า ไม่ต้องห่วง อยู่ข้างใน กินอิ่ม นอนหลับดี อยากให้พี่มาเยี่ยมทุกเดือน เพราะว่าเบื่อกินข้าวแดง ข้าวมันแข็ง

โดยพี่สาว ได้ส่งเงินให้ใช้เดือนละ 4,000 บาท ทุกเดือน ตอนนี้เปรี้ยว รู้ค่าของเงินมากขึ้น เพราะก่อนหน้าที่เปรี้ยวจะถูกดำเนินคดี ใช้เงินเที่ยว ครั้งละเป็นแสน เพราะติดเพื่อน เนื่องจากได้เงินมาง่าย ทำงานเอ็นเตอร์เทนลูกค้าที่ต่างประเทศ เพียง 15 วัน หอบเงินกลับบ้าน กว่า 200,000 บาท โดยแบ่งให้แม่เพียง 2-3พันบาท

พี่สาวเปรี้ยวยังบอกอีกว่า น่องสาวนั้นเป็นคนอารมณ์ดี ติดตลก แม้จะอยู่ในเรือนจำ เมื่อตนไปเยี่ยม น้องสาว จะบอกว่า ถ้าติกคุก 30 ปี อยากให้พี่มาเยี่ยมบ่อยๆ การติดคุก 30 ปี อีกทั้งเปรี้ยว ยังบ่นคิดถึงแฟน ที่ติดคุกอยู่แดนนักโทษชาย คดียาเสพติด และอยากเขียนจดหมายไปหา ก่อนที่ศาลจะพิจารณาตัดสินโทษ นวลฉวี คดี