ย้อนรอยคดีดังในไทย 5 คดีดังที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย

ย้อนรอยคดีดังในไทย

ย้อนรอยคดีดังในไทย คดีดังฆาตกรรมของคนไทย ที่เกิดขึ้นและร้ายแรงสะเทือนใจผู้คน

ย้อนรอยคดีดังในไทย เชื่อว่าหลายคน คงไม่อยากให้มันมีเรื่องนี้เกิดขึ้น เกี่ยวกับคดีดัง ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย คดีฆาตกรรม มีหลายอย่างที่เคยเกิด และมันเป็นคดีที่เป็นเรื่องราวที่โศกเศร้ามาก การรู้เรื่องราวเหล่านี้ มันอาจจะทำให้คุณ รู้สึกหดหู่ แน่นอนว่าคุณคงสงสัย ว่าบุคคลเหล่านี้ ทำไมถึงมีแรงจูงใจ และทำไมถึงต้องทำเรื่องเช่นนั้น

คนเรานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกิเลส หรือเรื่องของความโลภ บางครั้งมันอาจจะทำให้คุณ กระทำไปโดยยั้งคิด แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ทุกคน เพราะถ้าเกิดคนที่คิดได้ มันก็จะไม่มีปัญหาแบบนั้น แต่อย่างว่าเราจะสามารถรู้ได้อย่างไร ว่าคนใกล้ๆตัวของเรานั้น มีนิสัยแบบนั้นหรือเปล่า

หากเราย้อนรอยเรื่องของฆาตกรเหล่านี้ คุณอาจจะได้เห็นความจริง ว่าคนเรานั้นมีนิสัยแบบไหน ซึ่งเราจะมาพูดถึง และคดีฆาตกรรมที่เขาเคยทำมา เป็นเรื่องราวที่ร้ายแรงมาก

คดีฆาตกรรมที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เราจะยกคดีที่เป็นคดีดัง

หากเราจะพูดถึงทุกคดี ต้องบอกเลยว่าคงมีหลายร้อยคดี ซึ่งมันนับไม่ถ้วนเลย เรารับรู้ว่าทุกคดีมันเป็น เรื่องน่าโศกเศร้า ดังนั้นเหตุการณ์เหล่านี้ มันจะเป็นเครื่องเตือนใจ ให้กับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย เรื่องราวของคนร้ายและผู้เป็นเหยื่อ มักจะเกิดขึ้นตลอดมา และมีทุกๆ ปี บางครั้งเป็นสิ่งที่เราอาจคาดไม่ถึง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง

ดังนั้นในการเอาตัวเข้าไปอยู่กับความเสี่ยง มันอาจจะไม่ค่อยดีมากนะ ถ้าเกิดว่าคุณสามารถเลือกได้ ควรจะถอยห่างออกมา และหาช่องทางและโอกาส เพื่อให้คุณไม่กลายเป็นเหยื่อ และแน่นอนว่าต้องย้ำเตือนสติตัวเอง สำหรับทางออกที่ดี หากคุณกำลังคิดในสิ่งที่ไม่ดีในตอนนี้

การทำร้ายหรือว่าการฆ่าคน มันไม่ใช่เรื่องที่ได้ทำแล้วรู้สึกสบายใจ หรือว่าทำให้มันดีมากขึ้น บอกเลยว่ามันมีแต่ผลเสีย และผลร้ายที่ตามมา มันก็คืออนาคตของคุณ และอนาคตของครอบครัว ดังนั้นหากจะทำอะไร จงตัดสินใจให้ดี ก่อนที่จะลงมือทำนั่นเอง

เหตุการณ์และสิ่งที่ไม่คาดฝัน กับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

คดีของฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ สมคิด พุ่มพวง

เหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่อง และเป็นคดีที่ต้องบอกเลยว่า กฎหมายของประเทศไทยนั้น ดูแล้วให้ความสำคัญน้อยมาก กับการฆาตกรรม และปล่อยนักโทษออกมา ซึ่งแน่นอนว่าในการก่อคดี นายสมคิดนั้น ในช่วงปี 48 นายสมคิดนั้นได้ก่อคดีฆาตกรรม ซึ่งเป็นการฆาตกรรมผู้หญิงทั้งหมด 5 ศพซึ่งเป็นการฆาตกรรมอย่างต่อเนื่อง ประวัติของฆาตกรรายนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการฆาตกรรมหญิงสาวทั้งหมด 5 ศพประวัติเคยก่อเหตุมาแล้ว 8 คดีและมีการโดนจำคุกมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน และในช่วงที่มีการ ฆ่าหญิงสาว ทั้งหมด เหยื่อของคนร้ายส่วนใหญ่แล้ว จะมีอาชีพเป็น หมอนวด และ นักร้องคาเฟ่ มีการก่อเหตุมากกว่า 4 คดีครั้งด้วยกัน ในเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นคดีที่สะเทือนใจอย่างมาก

ย้อนรอยคดีดังในไทย

นายสมคิดนั้นจึงได้ฉายา แจ็คเดอะริปเปอร์เมืองไทย ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานข้อมูล และได้ร่วมแกะรอยจับ นายสมคิด หลังจากที่โดนจับได้ แน่นอนว่าด้วยการสาปแช่ง ของชาวบ้านหลายๆคนที่มารวมตัวกัน ซึ่งคดีนี้เป็นคดีใหญ่มาก นายสมคิดถูกศาลตัดสินประหารชีวิต เนื่องจากกฎหมายของประเทศไทย มีการลดหย่อนให้กับจำเลยที่รับสารภาพ จึงลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต และกฎหมายในเรือนจำเอง หากนักโทษคนไหน ที่มีการปฏิบัติตัวและประพฤติตัวดี ก็จะถูกให้ลดโทษลงไปอีก ซึ่งเขานั้นเป็นนักโทษยอดเยี่ยม และได้รับการพ้นโทษต่อเหลือเพียงแค่ 14 ปีและนั่นทำให้ฆาตกรรายนี้ ถูกปล่อยออกมา และลงมือกระทำซ้ำอีกครั้ง

คดีฆ่าชิงทรัพย์เศรษฐีสายบุญ พร้อมยัดตู้เย็น

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 62 มีคนแจ้งตำรวจว่าพบ ศพผู้หญิง ถูกฆ่ายัดในตู้เย็น สถานที่นั้นอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่เข้าไปตรวจค้น ก็ได้เจอกับตู้เย็นขนาดใหญ่ ถูกวางคว่ำลงกับพื้น และมีผ้าห่มคลุมทับ ผลจากการตรวจสอบด้านในตู้เย็น ได้พบว่าพบผู้เสียชีวิต ซึ่งน่าจะเสียชีวิตประมาณ 1 สัปดาห์ข้างในตู้เย็นนั้นพบปูนซีเมนต์ 2 ถุงที่คลุมไว้อยู่ และสภาพศพนั้นถูกมัดมือไว้ข้างหลัง คนร้ายได้ใช้ปูนซีเมนต์เป็นผง เอาทับศพไว้ คดีนี้เป็นคดีชิงทรัพย์ เพราะว่าของที่หายไป เป็นโทรศัพท์มือถือ และรถยนต์หรู 1 คันนั้นก็คือยี่ห้อ BMW บัตรกดเงินของผู้เสียชีวิตก็ได้หายไปด้วย

ย้อนรอยคดีดังในไทย

เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน และสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหาจับคนร้ายได้ ซึ่งเป็นนายตั้ม หรือวิฑูรย์ คนร้ายนั้นมีอาชีพขับรถสองแถว จากการสืบค้นประวัติ คนร้ายนั้นสนิทกับผู้ตาย หลังจากที่นายตั้มลงมือทำไปแล้ว ได้นำบัตรกดเงินสดของผู้ตาย ไปไล่กดเงินสดตะเวนไปทั่ว และได้เงินไปถึง 2 ล้านบาทกันเลยทีเดียว เป็นการฆาตกรรมที่โหดร้ายมาก แม้แต่ขนาดคนที่สนิทสนมด้วย ยังไม่สามารถไว้ใจได้ และอีกทั้งผู้ตายเป็นคนที่ชอบทำบุญมาก หลังจากที่ก่อเหตุ คนร้ายได้ถูกจับและตำรวจได้พบเงินจำนวนประมาณ 1 ล้านและทองคำหนักถึง 5 บาทซุกซ่อนไว้

คดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม

เป็นคดีดังอย่างมาก และสะเทือนใจสังคมอย่างมาก สำหรับคดีฆาตกรหั่นศพ ที่คุณอาจจะเคยรู้จัก เปรี้ยวหั่นศพ เป็นคดีที่สะเทือนใจของคนไทย จากการฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มวัย 22 ปีถูกทารุณและถูกหั่นศพแบบสยดสยอง โดยผู้ร้ายนั้นมีทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 5 คนด้วยการหันศพและยัดใส่ถุงดำ หลังจากนั้นนำไปฝังไว้ในดิน มีพยานใกล้ชิดได้กล่าวและเล่าว่า เปรี้ยวนั้นยอมรับตัวเองว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่าน้องแอ๋ม และได้หลบหนีไปทางประเทศเพื่อนบ้าน และในขณะที่ผู้ต้องหารายที่ 5 ซึ่งเป็นเพื่อนกับ เปรี้ยว ได้รับสารภาพบอกว่าตัวเองนะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฆ่าหั่นศพ เพียงแค่นำทรัพย์สินของผู้ตายไปขายเท่านั้น

ย้อนรอยคดีดังในไทย

และต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จากการที่หลบหนีไปอยู่ที่บ้านร้าง และออกมามอบตัว หลังจากที่จับกุมมาแล้วและสอบถาม ฆาตรกรคลั่งลัทธิ ต้นรับสารภาพ และอ้างว่าเกิดความแค้นส่วนตัว แต่ว่าคนที่ลงมือฆ่านั้นก็คือนางสาวเปรี้ยว เป็นคนตัดสินใจในการฆ่าและหั่นศพ เพื่อทำลายหลักฐาน และมีผู้ชายอีก 1 คนที่ลงมือทำการหั่นศพด้วยนั่นเอง และสารของจังหวัดขอนแก่น ได้พิพากษาขั้นต้นนางสาวเปรี้ยว และนางสาวเอิร์น ให้ถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การที่เป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ได้เพียงแค่ 1 ใน 3 จะต้องจำคุกอีก 34 ปี

คดีฆ่าหั่นเจ้าโลก พนักงาน รฟม.

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 50 เป็นคดีที่เขย่าขวัญคนกรุงมาก ได้พบศพ นาย พิชัย ทองใบ ซึ่งเป็นพนักงานช่างเทคนิค มังงะ สภาพศพถูกฟันที่ท้ายทอย และถูกปาดคอลึกมากจนเกือบขาด และเจ้าโลกของผู้ตาย ถูกคนร้ายใช้มีดตัดต้นขาด และการกระทำของคนร้าย ยังเอาเรื่องของผู้ตาย มาเขียนเป็นรูปหัวใจไว้ที่กลางอก บอกเลยว่าเป็นคดีที่สยองมาก และคนร้ายลงมือทำแบบตั้งใจ จากการตรวจสอบคนร้ายน่าจะลงมือใช้อาวุธมีด ซึ่งเป็นมีดที่มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักเยอะพร้อมกับความคม สาเหตุของฆาตกรรมครั้งนี้ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่การฆาตกรรมชิงทรัพย์ใดๆทั้งสิ้น เพราะว่าทรัพย์สินของผู้ตาย ยังมีครบอยู่นั่นเอง

ย้อนรอย คดีดังในไทย

ตำรวจได้ทำการสอบสวน และมีผู้ต้องสงสัยที่เป็นพนักงานของบริษัท ซึ่งทำงานภายในอาคาร และนำมาสอบถามได้ประมาณ 10 คนด้วยกัน และหนึ่งในนั้นมีคนให้การพิรุธ ซึ่งนั่นก็คือนายประเสริฐ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกับผู้ตาย และได้หายตัวไปหลังจากเกิดคดีฆาตกรรม และหลังจากที่สอบสวน ก็เลยได้พบว่าผู้ตาย มีเรื่องขัดแย้งกับนายประเสริฐอย่างรุนแรง และเป็นเรื่องเกี่ยวกับชู้สาว เขาได้สนใจหญิงสาวคนเดียวกัน แต่นายประเสริฐนั้นมีแฟนอยู่แล้ว ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตนั้น ผู้ตายได้นำเบอร์โทรศัพท์ของหญิงสาวรายนี้ นำไปให้แฟนสาวของนายประเสริฐ และเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง เป็นคดีที่ลงมือโดยเจตนา จากการหาหลักฐานและนำไปประกอบกัน จนสามารถจับคนร้ายได้

คดีห้างทองธรรมวัฒนะ

ปริศนาการตายของ นายห้างทอ มันเป็นปริศนาที่ตกลงแล้วคือการตายแบบ ฆ่าตัวตาย หรือการตายแบบการ ฆาตกรรม ซึ่งมีคนพบศพนายห้างทองเสียชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ และสภาพการตายนั้น ผู้ตายได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ และคอหงายขึ้นไปด้านหลัง และพบบาดแผลที่ถูกยิงทะลุศีรษะ และเสียชีวิตภายในห้องของน้องชาย

ย้อนรอยคดีดัง ในไทย

ซึ่งหลายคนก็สงสัย และน้องชายของเขาได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งสาเหตุการตายนั้น ยังมีหลายคำถาม ว่านายห้างทองถูกฆาตกรรม หรือว่าฆ่าตัวตายกันแน่

เชื่อว่า ย้อนรอยคดีดังในไทย ที่กล่าวมานี้ คุณอาจจะเคยได้ยินมานานแล้ว แต่นับว่าเป็นคดีที่สะเทือนใจคนไทยอยากมาก

ในทุกวันนี้เราจะได้เห็น การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายของเรา ซึ่งต้องเรียกได้ว่า มันยังไม่ดีพอ ที่จะควบคุมการการก่อเหตุโศกนาฏกรรมแบบนี้ และแน่นอนว่าสมัยนี้ เรียกได้ว่าไว้ใจไม่ได้ และสิ่งที่คุณสามารถทำได้ คุณจะต้องเตือนสติตัวเอง และไม่ทำให้ตัวเองนั้นตกไปอยู่พื้นที่เสี่ยง ไม่ว่าใครก็ตาม

หากเราเอาตัวเข้าไปอยู่ในปัญหา มันอาจจะส่งผลร้ายมาถึงตัวเอง แนะนำว่าให้อยู่ของคุณให้ดีที่สุดก็พอ เพราะบางทีคนร้ายนั้นอาจจะลงมือไปโดยไม่ได้คาดคิด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นได้บ่อยมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คุณจะได้เห็นคดีหลายอย่าง ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นคดีร้ายแรงต่างๆ นานา

อย่างเช่น การฆ่าข่มขืน เป็นคดีที่ร้ายแรงอย่างมาก และหลายคนก็อยากจะให้ปรับเปลี่ยนกฎหมาย ถ้าเกิดว่าประเทศไทยนั้น มีกฎหมายที่รุนแรงกว่านี้ คดีฆาตกรรมเหล่านี้อาจจะลดลงไปเยอะเลยก็ได้