นวลฉวี คดี คดีฆาตรกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้ว มากกว่า 60 ปี 

นวลฉวี คดี

นวลฉวี คดี รอยรักรอยเลือด เป็นที่ของคำว่า สะพานนวลฉวี 

นวลฉวี คดี เหตุการณ์นี้ถือว่าเกิดขึ้นมาแล้ว มากกว่า 60 ปี  นวลฉวีได้หายตัวไป ในช่วงวันที่ 10 ของเดือนกันยายน ปี 2502 และพบอีกที ในวันที่ 12 กันยายน พร้อมกับสภาพที่ไร้ลมหายใจ เป็นการเสียชีวิต ด้วยการถูกฆ่า และโยนลงน้ำ

เธอลอยขึ้นอืดเหนือแม่น้ำ เจ้าพระยาในตอนเช้า ซึ่งหลายคน ก็ต่างตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ว่าจะขึ้นอะไรกันแน่ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า นั่นคือฝีมือของสามีของเธอนั่นเอง

นั่นก็คือ หมออธิป สุญาณเศรษฐกร เป็นสิ่งที่หลายคนยังตั้งข้อสงสัยกันว่า ทำไมสามีของเขา ถึงต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย มีสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งเป็นเรื่องราวที่คนไทยจดจำกันมาโดยตลอด 

นวลฉวี คดี ประวัตินวลฉวี เพชรรุ่ง 

เกิดวันที่ 13 เดือนตุลาคม ปีพศ. 2475 เป็นคนตำบลเชียงงา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ครอบครัวของเธอ เป็นครอบครัวที่มีฐานะมั่นคง มีพี่น้องร่วมกันมากกว่า 10 คน บ้านของเธอนั้น มีที่นา และมีพื้นที่ให้เช่าต่างๆ รวมถึงครอบครัวของเธอนั้น ได้รับการศึกษาอย่างดี เป็นที่น่ายกย่อง

เช่นเดียวกับนวลฉวี เป็นลูกสาวอีกคนนึงของบ้าน หน้าตาพอใช้ได้ เป็นคนที่มีลักษณะร่าเริง แล้วมีเสน่ห์ เป็นคนช่างพูด และทำให้ชีวิตดูมีชีวิตชีวา ตัวเองเป็นคนเก่ง และมีหัวที่ดี ได้ทำการสอบเข้า เพื่อเป็นนักเรียนพยาบาลที่ โรงพยาบาลศิริราช และจบการศึกษา ในปี 2497 ได้ ในช่วงแรกนวลฉวี ได้ที่ทำงาน อยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งอยู่ได้ประมาณปีเศษๆ ก็ทำการลาออก

เนื่องจากว่า ไปมีเรื่องกับคนไข้ในโรงพยาบาล ต่อมาเธอได้ย้ายมาเป็นพยาบาล ที่เมืองบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี อยู่ได้ประมาณ 1 ปี และทำการย้ายสถานที่ทำงาน ไปในปี 2,501 และในช่วงนั้นนวลฉวี ได้เป็นสาวเต็มตัว ชอบเดินทางท่องเที่ยว กับเพื่อนที่ชื่อว่า โมทนี และสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอนั้น นั่นก็คือการได้พบรัก กับหมออธิป ซึ่งการใช้ชีวิตของเธอ ก็เปลี่ยนไปหลังจากนั้น  

ความรักที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง จุดเริ่มต้นของเรื่องราว รอยรักรอยเลือด 

หมออธิป ถือได้ว่าเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ แต่จริงๆแล้วเป็นคนฉะเชิงเทรา ซึ่งครอบครัวย้ายมาตั้งฐานที่กรุงเทพฯ เนื่องจากได้รับข้าราชการ ในกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหมออธิป เป็นคนที่ค่อนข้างใจดี และหน้าตาดี ใจเย็น พร้อมกับความเฉลียวฉลาด แน่นอนเป็นสิ่งที่สาวๆ ลงรักได้แบบง่ายๆ หมออธิป เป็นเด็กนักเรียนสวนกุหลาบ จบในปี 2494

แล้วมาต่อ คณะแพทย์ศาสตร์ ที่ศิริราช ซึ่งใช้เวลาในการเรียน 6 ปีเพื่อจบหมอในปี 2500 และได้รับเกณฑ์ ให้เข้าเป็นข้าราชการสำรอง ซึ่งอยู่ในกรมกำลังพลทหารอากาศ พร้อมกับได้รับตำแหน่ง ว่าที่เรืออากาศโท และได้เข้ารับข้าราชการ นายแพทย์ อยู่โรงพยาบาลรถไฟ ในช่วงปี 2501 หมออธิปย้ายไปเป็นแพทย์ประจำรถไฟ หัวหน้าเขต 4 จังหวัดลำปาง

ซึ่งทำให้เขาเอง ได้ไปพบกับนวลฉวี และหมออธิป รับหน้าที่เป็นคนนำพาเที่ยว พานวลฉวี และเพื่อน ไปเที่ยวในลำปาง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 วันและหลังจากนั้น ก็ต้องแยกจากกัน เนื่องจากนวลฉวี และเพื่อนต้องไปต่อที่เชียงใหม่ ถึงแม้ว่าจะต้องพรากจากกัน แต่ด้วยความเอาใจใส่ทั้งคู่ จึงพัฒนาความรักต่อ ด้วยการติดต่อกันทางจดหมาย

เพื่อทำการส่งไปมาหากัน และจนกระทั่งนานถึง 6 เดือนผ่านไปหมออธิป ได้ย้ายกลับเข้ามาที่โรงพยาบาลเดิม หมออธิปก็ไม่รอช้า ทำการติดต่อนวลฉวี และสร้างความสัมพันธ์กันในที่สุด 

ความรักสองคนนั้นเป็นไปได้ไม่ค่อยราบรื่นนัก 

เนื่องจากมีผู้หญิงอีก 1 คน ที่เข้ามาในชีวิต เธอก็คือนักศึกษาสาว แห่งมหาวิทยาลัยเทคนิค ทุ่งมหาเมฆ แถมเป็นเพื่อนในวัยเด็กของหมออธิป แถมยังเป็นคนสวยอีกด้วย ซึ่งหมออธิป ถูกใจเป็นอย่างมาก และมีช่วงนึงที่เขานั้น จะต้องทำการสอบ เพื่อชิงทุนไปเยอรมัน ซึ่งทำให้ไม่มีเวลาให้กับนวลฉวี ซึ่งนอกจากนี้จะต้องไปเรียนภาษาเยอรมันเพิ่มเติม ที่เลขาทูต ทำให้การใช้ชีวิต และเวลาที่หมออธิป จะได้เจอกันนวลฉวี ซึ่งได้หายไปทีละน้อยนั่นเอง แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้หญิงนั้น รู้สึกได้ง่าย เธอได้รู้สึกเริ่มระแคะระคายใจ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ของหมออธิป แน่นอนว่าจะต้องมีการหึงหวงกันเกิดขึ้น ซึ่งเธอได้หึงหวงหมออธิป เป็นอย่างมากเลยนั่นเอง เธอได้ตามหมออธิป ไปทุกที่ทุกสถานที่ทุกเวลา จนกระทั่งในวันที่ 11 มีนาคม หมออธิปถึงต้องยอมจดทะเบียนสมรสกับนวลฉวี ที่ยานนาวา จริงๆแล้วมีข้อมูลที่ถูกกล่าวออกมาจากหมออธิป ซึ่งบอกว่า จริงๆแล้วไม่อยากจดทะเบียนกับ มันเป็นเรื่องที่พูดยาก และมีหลายเรื่องแบบบอกไม่ถูก เธอตามแทบทุกวัน และทุกคืน ซึ่งทำให้เขาไม่ได้ทำงาน และมานั่งเฝ้ารออยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการตัดสินใจว่า จดทะเบียนไปซะ จะได้ตัดปัญหาสักที จริงๆแล้วเรื่องมันมีมากกว่านั้น ในขณะที่ช่วงวันที่ 17 มีนาคม ปี 2502 หมออธิปได้ทำการจดทะเบียนสมรส กับเพื่อนหญิงคนนั้น ที่เข้ามาในชีวิต ที่อำเภอพระเนตร ที่เรียกได้ว่าเป็นการจดทะเบียนซ้อน โดยหมอหมออธิป ได้พูดมาว่าที่ต้องจดทะเบียนกับคนนี้ด้วย ก็เพื่อทำการปิดปาก เพื่อไม่ให้เผยตัวกับความรักลับๆ ของทั้งคู่ และจนในที่สุด อีกฝ่ายหนึ่งที่ช่างตื๊อและตาม และอีกฝ่ายนึงที่ยังผิดหวังกับความรัก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้น 

จากรักกลายเป็นแค้น แต่ในช่วงเวลานั้น 

นวลฉวีมีแต่ความคิดที่อยากจะเอาชนะ รวมถึงกับการที่ต้อง ทะเลาะกับหมอ จนถึงกลับต้องไปบอกกับทางครอบครัว ว่าจะแต่งงานกับหมออธิป เหมือนกับการมัดมือชก และจนมาถึงในเดือนมิถุนายน ปี 2502 นวลฉวีได้เข้าไปหาหมออธิปที่อยู่โรงพยาบาลรถไฟ ซึ่งหมอกำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน ทำให้เกิดการทะเลาะเกิดขึ้น และหนักหน่วงเป็นอย่าง มาก รวมถึงนวลฉวี พยายามที่จะทำการย้ายเข้าบ้านของหมอ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะครอบครัวยังไม่ต้องรับ 

และในเหตุการณ์ครั้งนั้น นวลฉวีได้ทำการเขียนบันทึกไว้ ซึ่งอยู่ในสมุดไดอารี่ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ สำหรับการสืบหาและค้นหาต้นตอในคดีนี้ ที่ได้ฆ่าเธอ จนปัจจุบันนี้ หลักฐานที่นี่ก็ยังอยู่เป็นชิ้นสำคัญ ที่อยู่ใน ห้องพิพิธภัณฑ์ ของ นิติเวช ของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งในข้อความนั้นเธอได้ระบุไว้ว่า เธอเขียนถึงเหตุการณ์ วันที่ 13 กรกฎาคม 2502 ซึ่งระบุว่า เธอจะเข้าไปพบหมออธิป สามีฉันที่อยู่ในโรงพยาบาลรถไฟ ทำการคุยปัญหาเรื่องราวชีวิตของทั้งสอง และข้อมูลในไดอารี่ระบุไว้ว่า เธอถูกหมออธิป ต่อยเขาไปที่หน้าแบบจังๆ จนเธอต้องไปแจ้งความกับตำรวจ 

และช่วงนั้นมีบันทึกว่า หมออธิปไม่ได้เป็นอันทำงาน เนื่องจากเจอปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแฟนสาวอีกคน และครอบครัวของนวลฉวี ทำให้หน้าที่การงาน ที่รับตำแหน่งข้าราชการ ถูกเพ่งเล็งจากเราผู้ใหญ่ และในวันที่ 22 กรกฎาคม นวลฉวีได้ทำหนังสือ ทำการร้องเรียนให้กับฝ่ายสารวัตรสืบสวน ซึ่งกล่าวไว้ว่าหมออธิป ไม่ได้ทำตามคำขอ ที่เคยไว้ให้ หรือการทำทัณฑ์บน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม ดูหนังออนไลน์ ที่รุนแรง และทารุณกับเธอเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย หนักจนถึงเลือดไหล ซึ่งเธออยากจะขอให้พิจารณาดำเนินคดีใหม่อีกครั้ง 

นวลฉวี ดูดวงครั้งสุดท้าย จะไม่ต้องวุ่นวายกับชีวิตอีกต่อไป 

มาถึงในวันที่ 1 กันยายน 2502 หมออธิปและนวลฉวี ได้ทำการ แทงบอลโลก เข้าพบสารวัตรใหญ่ ที่พญาไท เรื่องคดีทำร้ายร่างกาย จากนั้นทั้งคู่ได้ทำการพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน ที่หน้าโรงหนัง King

หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป พอมาถึงวันที่ 9 กันยายน 2502 นวลฉวี ได้ทำการไปดูดวง รวมถึงพระทำนายไว้ว่า ดวงชะตาจะดีขึ้นหลังจากนี้ และจะไม่ต้องวุ่นวายกับชีวิตอีกต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก

เนื่องจากเป็นคำของพระบอก หลังจากนั้นหมออธิป ได้ทำการพานวลฉวี ได้ปรึกษากับธวัช พูดถึงเรื่องเรือนหอ ของทั้งสองคน และในช่วงคืนนั้น หมออธิปต้องดูคนไข้และอยู่นานจนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่จะต้องไปส่งนวลฉวีกลับ

และมาถึงในวันที่ 10 เธอได้ทำการโทรศัพท์ หาธวัช ว่าเมื่อคืนในตอนที่หมอเลิกงาน แล้วไปส่งเธอกลับที่โรงพยาบาลยาสูบ ได้เกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้น ซึ่งเธอบอกถ้าเกิดเลิกงานแล้ว ไปเจอกันที่ โรงพยาบาลยาสูบ ซึ่งเธอจะเล่ารายละเอียดให้ฟังในตอนเย็น และหลังจากนั้น ธวัชก็ไม่พบกับนวลฉวีอีกเลย จนกระทั่งกลับมาพบร่างที่ไร้ลมหายใจ

ซึ่งเธอถูกโยนลงมาจาก สะพานนนทบุรี เป็นคำที่พระได้กล่าวไว้ว่า หลังจากนี้จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และจะไม่ต้องวุ่นวายกับชีวิตอีกต่อไปแล้ว การชันสูตรศพร่างไร้ชีวิตนั้น ได้พบว่ามีแผลที่ซี่โครงซ้าย 1 แผลและชายโครงขวา 2 แผล

และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 24 ชั่วโมงแล้ว และสาเหตุการตายทั้งหมด หมออธิปเป็นคนจ้างวาน ให้กลุ่มคนรับงาน คดีหมอผัสพร ทำการฆ่าเธอนั้นเอง