ตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง

ตุ๊กตาไล่ฝน

ตุ๊กตาไล่ฝน ที่มาและ ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน

ตุ๊กตาไล่ฝน เป็นตุ๊กตาที่มีลักษณะเป็นคนหรือสัตว์ ที่มีร่มหนึ่งมือ และใช้มืออีกข้างหนึ่งเคลื่อนไหวได้ เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวตุ๊กตาในขณะที่เคลื่อนไหว ชื่อตุ๊กตาไล่ฝนมาจากภาษาญี่ปุ่น “Teru Teru Bozu” ซึ่งใช้เป็นการเรียกชื่อเด็กๆ

เมื่อต้องการหยุดฝนหรือให้ฝนหยุดตกลงมา โดยมักถูกวาดหรือเย็บจากผ้าหรือกระดาษ และมักถูกใช้ในงานเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับฤดูฝน เช่น งานประเพณีของญี่ปุ่น หรืองานเทศกาลชิงแข่งขันต่างๆทั่วโลก

ตำนานของตุ๊กตาไล่ฝน มีหลายเวอร์ชั่นตามแต่แหล่งที่มา แต่เป็นที่รู้จักกันว่าตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น ตามตำนานเดิม มีเด็กหนึ่งชื่อ “ชิงโต” (Ching-Tang) ในสมัยของจักรพรรดิมหม่อมเจ้าฮัน

เด็กนี้เป็นลูกของทหาร ที่ไปต่อสู้กับประเทศซิน หลังจากสงครามเสร็จสิ้นแล้ว ชิงโตก็ยังอยู่ในหมู่บ้านที่กลับมาไม่มีฝนตกเลย จนเกิดเพื่อนร่วมเล่นชื่อ “อิน” (In) ขึ้นมา เมื่อชิงโตรู้สึกเหงา อินก็เดินมาเล่นด้วย

แต่เมื่อฝนเริ่มตกอย่างไม่หยุดนาน ชิงโตก็คิดว่าน่าจะขาดอาวุธ ไปทำสิ่ง เว็บดูบอลสดฟรี ที่สร้างความเป็นกันเอง เพื่อต้องการฝน จึงตัดผ้าแล้วประดับด้วยกระดาษ เพื่อทำเป็นตุ๊กตาไล่ฝน และสั่งให้นิ้วก้อยของตุ๊กตาหนี ไปที่ซีเหล็ก

เพื่อดูว่าฝนจะหยุดตกหรือไม่ ตุ๊กตาไล่ฝนก็กลายเป็น ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน สัญลักษณ์ของเด็กๆ ที่ต้องการให้ฝนหยุดตก หรือต้องการฝนในช่วงปีที่แล้ง และยังคงถูกนำมาใช้ในประเพณีต่างๆ จนถึงปัจจุบัน

ความเชื่อเรื่อง ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน ตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง

ความเชื่อเกี่ยวกับ ตุ๊กตาไล่ฝน นั้นเป็นการเชื่อว่า ตุ๊กตาไล่ฝน เป็นสิ่งของที่มีความเป็นมงคล และมีอำนาจ ในการช่วยเหลือให้ฝนตกในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ในการเกษตรและการดำเนินชีวิต ของคนในชนบท

ผู้คนจึงมักทำการบูชาตุ๊กตาไล่ฝน โดยใช้วิธีการขออภัย และขอกรุณาพระเจ้า ที่ถือเป็นเจ้าของฝน และจะใช้ตุ๊กตาไล่ฝน เป็นตัวกลางในการส่งข้อความและความต้องการของคน เพื่อให้พระธาตุของพระเจ้า ไปส่งต่อไปยังพระเจ้าแห่งฝน

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่า การทำการบูชาตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง จะช่วยให้ฝนตกเร็วขึ้น และช่วยให้ผลผลิตของการเกษตร มีคุณภาพและปริมาณ มากขึ้นด้วย

ตุ๊กตาไล่ฝน

ความเชื่อเกี่ยวกับ ตุ๊กตาไล่ฝน ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน ในประเทศญี่ปุ่น

ก็มีอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ที่มีการเผชิญกับภัยแล้ง อย่างหนักในบางปี ผู้คนในญี่ปุ่น จะมักทำการบูชาตุ๊กตาไล่ฝน เพื่อขอความกรุณาฝนจากพระเจ้า

ซึ่งตุ๊กตาไล่ฝนในญี่ปุ่น มักจะเป็นตุ๊กตา ซึ่งมี รูปร่างของเด็กหรือเทพเจ้า โดยมักจะเป็นสีฟ้าหรือฟ้าเขียว และมักจะทำจากวัสดุ เช่น ไม้ ฟางข้าว หรือ ผ้า เป็นต้น ผู้คนจะวางตุ๊กตาไล่ฝน ไว้ที่สถานที่สำคัญ เช่น ที่ศาลเจ้า หรือที่หน้าบ้าน

เพื่อให้พระธาตุของพระเจ้าส่งเสียงตอบรับ และช่วยเหลือให้ฝนตก มาในช่วงฤดูแล้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานสมุดเยี่ยม ตุ๊กตาไล่ฝน ที่ผู้คนจะนำตุ๊กตาไล่ฝน ไปติดที่กล่องของพระเจ้า เพื่อขอความกรุณาฝน

และตอนนี้ก็ มีการพัฒนา ตุ๊กตาไล่ฝนอัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และรับคำขอบคุณแบบอัตโนมัติ เมื่อฝนตกเหมือนกับการส่งสัญญาณ ไปยังพระธาตุของพระเจ้า ในปัจจุบัน

ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน เรื่องเล่า เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง

ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน ในญี่ปุ่น ก็มีหลายเรื่องราวที่สะท้อนถึง ความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับการต้องการฝน ในช่วงฤดูแล้ง ด้วยความเชื่อที่ว่าฝนเป็นสิ่งสำคัญ ต่อการเกษตร และการดำเนินชีวิต ของชาวญี่ปุ่น

เรื่องราวที่พูดถึงกันอย่างหนึ่ง คือเรื่องของตุ๊กตาไล่ฝน ในสมัยของ พระจักรพรรดิฮารุนะกุระ ที่เป็น กษัตริย์แห่งสมัยเรียวกุน ในช่วงฤดูแล้งของปีหนึ่ง เมื่อการขอฝนด้วยการบูชาพระเจ้า และการแสดงการเคลื่อนไหว แบบดนตรีและเต้นรำ ไม่ได้ผลลัพธ์ในการทำให้ฝนตก

พระจักรพรรดิจึงได้สั่ง ให้สร้าง ตุ๊กตาไล่ฝน ขึ้นมาเพื่อใช้ในการบูชาพระเจ้า และขอความกรุณาฝน ตุ๊กตานี้มีรูปร่างของเด็กและมีสีฟ้า ซึ่งเป็นสี ที่มีความสำคัญในศาสนาญี่ปุ่น เนื่องจากถือว่าเป็น สีของพระเจ้า

เรื่องราวอื่น ๆ ที่พูดถึงเกี่ยวกับตุ๊กตาไล่ฝน ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น มีอยู่หลายเรื่อง เช่น ตุ๊กตาไล่ฝนที่ถูกสร้างขึ้น ในสมัยของท่าน พระองค์จักรพรรดิฮิกะรา

ตุ๊กตาไล่ฝนถูกสร้างขึ้น ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าเกียรตินิยม ที่เป็นช่วงปี พ.ศ. 2450-2540 (1907-1997) ซึ่งเป็นช่วงเวลา ที่ภูมิประเทศญี่ปุ่น ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำฝน ทำให้เกิดภัยแล้ง

พระองค์จึงใช้วิธี การประดิษฐ์ ตุ๊กตาโบว์ขนาดเล็ก และบอกให้เด็กๆ ที่อยู่ในพระวัด ที่สร้างขึ้นใหม่ใช้ตุ๊กตานี้ เพื่อขอให้ฝนตก ต่อมาตำนานเรื่อง ซอมบี้  นี้ ก็เป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะใน งานเก็บเกี่ยวข้าว หรือ งานแต่งงาน

ตุ๊กตาไล่ฝน

ที่มา ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน เครื่องรางญี่ปุ่นที่แสนน่ากลัวชวนสะพรึง

หากว่ามองข้าม ความน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม ไปแล้ว ดูดีๆ มันก็มีความคล้ายกับ รูปร่างของคนถูกแขวนคอ อยู่เหมือนกัน ถูกต้องแล้ว ตำนานของมัน มีความน่ากลัวอย่างนั้นจริงๆ เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ญี่ปุ่นในสมัยโบราณนั้น มีพระสงฆ์อยู่รูปหนึ่ง

เป็นที่รู้จักว่า ท่านสามารถทำพิธีปัดเป่า บันดาลให้ฝนหยุดตกได้ ไดเมียวจึงนิมนต์ ท่านมาทำพิธีหยุดฝนให้ แต่ปรากฏว่า ท่านไม่สามารถทำได้ ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง จึงถูกลงโทษด้วย การตัดคอ นำผ้าสีขาวไปห่อศีรษะ แล้วเอาไปแขวนไว้ แต่บางตำนานก็ว่าไม่ได้ตัด แต่แค่จับ พระห่อผ้าสีขาวแล้วแขวนคอ เลย

และแล้วผลก็ปรากฎ ในวันต่อมาครับ นั่นคือท้องฟ้าแจ่มใส ขึ้นมาในทันที จากนั้นชาวบ้านเลยเชื่อกันว่า ถ้าทำ ตุ๊กตาไล่ฝนหัวกลม เหมือนดั่งพระภิกษุ แล้วนำไปแขวนไว้ จะทำให้ฟ้าของวันรุ่งขึ้นนั้น สดใสปลอดโปร่ง ซึ่งก็โชคดีว่า ไม่ต้องแขวนคอพระองค์อื่นๆ

ตำนานเรื่องนี้ สอดคล้องกันกับเพลงกล่อมเด็ก โบราณของญี่ปุ่นครับ ชื่อเพลง เทะรุ เทะรุ โบสุ ซึ่งเนื้อหาที่แปลออกมาก็จะได้ประมาณว่า เจ้าตุ๊กตาไล่ฝนเอ๋ย ช่วยทำให้วันพรุ่งนี้ มีอากาศแจ่มใสที ถ้าทำได้ฉันจะให้กระดิ่งทอง ถ้าทำได้ก็มาจิบสาเกหวานกัน แต่ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะตัดคอของเจ้าเสีย